นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.99/35.01 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.92 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดี จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ขณะที่เงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าลง โดยวันนี้มองว่าเงินบาทยังมีโอกาสจะแข็งค่าเนื่องจากยังมีปริมาณ Flow ไหลเข้า
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.10 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.9950 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (22 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.40276%

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (22 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.54848%
* ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 106.05 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0940 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1022 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.9380 บาท/

ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (25-29 ก.ค.) ที่ 34.80-35.10 บาทต่อ

ดอลลาร์ฯ โดยตลาดอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของไทย ตลอดจนสัญญาณดอกเบี้ยจากผลการประชุม FOMC ของเฟดวันที่ 26-27 ก.ค. (แม้ว่าเฟดอาจจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคบริการ (ขั้นต้น) เดือนก.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 2/2559 นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (27-28 ก.ค.) ด้วยเช่นกัน

- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณี ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาทของประเทศไทยว่า ไม่กระทบกับเศรษฐกิจ เพราะเป็นการปรับทางเทคนิค จากการที่ฟิทช์ปรับโมเดลการให้เครดิตเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ทำให้ฟิทช์ปรับลดเครดิตเกือบทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย

- ขณะที่รายงานความเสี่ยงทางการคลังปีงบประมาณ 2558 ประเมินความเสี่ยงทางการคลังในปีงบประมาณ 2559-2564 พบว่างบฯปีนี้ ประมาณการรายได้ 2.33 ล้านล้านบาท ขณะที่รายจ่ายพุ่งแตะ 2.77 ล้านล้านบาท แต่ข่าวดีเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3-4%

- กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอครม.อังคารนี้ไฟเขียวกฎหมายแข่งขันการค้าฉบับใหม่ คาดประกาศได้ปลายปีนี้ ด้าน “บอร์ดแข่งขันทางการค้า" ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่แล้วพฤติกรรมห้ามร้านค้าขายสินค้าคู่แข่ง

- กระทรวงพลังงานจ่อชง "กพช." สิงหาคมนี้เปิดแนวทางการ นำเข้า LPG เสรีเริ่ม 1 มกราคม 2560 โดยยกเลิกระบบโควตานำเข้าและการประมูลโดยเปิดเสรีทั่วไปหวังให้รายอื่นแข่งขันกับ ปตท. พร้อมกำหนดเลิกคุมราคาโรงกลั่น น้ำมันและอะโรเมติกส์

- รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศกลุ่ม G20 ซึ่งได้ประชุมร่วมกันที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนประเทศจีน ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ "เครื่องมือทางนโยบายทั้งหมด" เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังจากที่อังกฤษได้ลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจโลกประสบกับความผันผวนมากขึ้น จากเดิมที่เผชิญกับปัญหาด้านการก่อการร้ายและความท้าทายด้านอื่นๆอยู่แล้ว

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (22 ก.ค.) เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ระดับ 1,323.40ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.3%

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 44.19 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 51 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 45.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (22 ก.ค.)เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยหนุนกระแสการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 1.0956 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1017 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบเยน สู่ระดับ 106.09 เยน จาก 105.90 เยน

ขอบคุณเครดิตข่าวจาก :  http://www.ryt9.com/