Gold Field Refinery <
ข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน

      ปัจจัยสำคัญ ที่น่าติดตามประจำวันที่ 26/06/60

ปัจจัยสำคัญ ที่น่าติดตามประจำวันที่ 26/06/60


- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.31 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 111.20 เยน/ดอลลาร์



- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1193 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1169 ดอลลาร์/ยูโร



- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.9720 บาท/

ดอลลาร์


- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (26-30 มิ.ย.)ที่ 33.85-34.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย รายได้ รายจ่ายและดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย. และจีดีพีไตรมาส 1/2560



- คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดประมูลเลขหมายโทรศัพท์มือถือที่เป็นเลขสวยครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้นำเลขหมายมาเปิดประมูลทั้งสิ้น 168 เลขหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มเลข 7 ตัว เหมือนและ 6 ตัว เหมือนมีผู้สนใจประมูลเลขหมายทั้งสิ้น 32 เลขหมาย จากผู้เข้าร่วมประมูล 15 ราย คิดเป็นเงิน 28.84 ล้านบาท โดยรายได้จากการประมูลหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว กสทช.จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป



- รมว.คมนาคม เตรียมแจงรายละเอียดบอร์ด สศช. ลงทุนรถไฟความเร็วสูง "กรุงเทพ-โคราช" 1.79 แสนล้านเพื่อการเชื่อมโยงเป็นประโยชน์ประเทศ ด้านปลัดคมนาคม เผยแม้จีนออกแบบ แต่มีวิศวกรไทยตรวจเช็กตามมาตรฐานไทย



- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมมอบนโยบายให้กับผู้บริหารระดับสูง (ซีอีโอ) ของรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง โดยจะมีการปรับตัวชี้วัดการทำงาน เพื่อให้การทำงานของรัฐวิสาหกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการลงทุนของรัฐวิสาหกิจถือเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ



- กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอมรับว่าค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐเริ่มเดินหน้า ส่งผลให้เม็ดเงินเริ่มไหลเข้าระบบเศรษฐกิจ



- รัฐบาลอังกฤษเผยจะยังคงข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายเอาไว้ แม้ว่า อังกฤษจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) แล้วก็ตาม ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสัญชาติอังกฤษไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าสินค้าที่ได้มีการซื้อมาจากประเทศเหล่านี้ เช่น บังคลาเทศและไฮติ



- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ 1 ขั้น สู่ระดับ Caa2 จากระดับ Caa 3 นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังได้ปรับทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของกรีซขึ้นสู่ระดับ "เชิงบวก" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" ซึ่งบ่งชี้ว่า มูดี้ส์อาจจะปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซอีกในวันข้างหน้า


- ปัจจัยที่ทำให้มูดี้ส์พิจารณาปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ มาจากการที่รัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป หรือยูโรกรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงเบิกจ่ายเงินกู้งวดใหม่ให้กับกรีซในวงเงินสูงถึง 8.5 พันล้านยูโร (9.47 พันล้านดอลลาร์) เพื่อให้กรีซนำไปชำระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดชำระ ขณะเดียวกันยูโรกรุ๊ปยังได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะให้ความช่วยเหลือกรีซในการชำระหนี้ในอนาคต



- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 610,000 ยูนิต หลังจากเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 593,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะพบว่ายอดขายบ้านใหม่ในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นขึ้น 8.9%



- ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้



- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (23 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทั้งดีเกินคาดและต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยูโรแข็งค่าเทียบดอลลาร์แตะ 1.1199 ดอลลาร์ จาก 1.1149 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยนที่ 111.25 เยน จากระดับ 111.32 เยน



- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (23 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ จึงดึงดูดใจนักลงทุนมากขึ้น



- ตลาดให้ความสนใจต่อการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กรุงลอนดอนในวันอังคารหน้า ซึ่งนักลงทุนจะจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด



ขอบคุณเครดิตข่าวจาก RYT9




 
Privacy Policy
Cookies Policy
บริษัท โกลด์ ฟิลด์ รีไฟเนอรี จำกัด 14 ซอยสุขาภิบาล2 ซอย31 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250 โทร. 0-2035-3888 แฟกซ์ 0-2035-3898