ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 3.2 ดอลลาร์ จากแรงขายหลังดาวโจนส์พุ่งแรง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 23,000.00 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลง 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ระดับ 1283.0 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.4 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 16.997 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 10.20 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 924.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 23 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 952.95 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดทองคำได้รับปัจจัยกดดัน จากการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยเฉพาะบริษัทไอบีเอ็ม ที่ส่งสัญญาณเป็นบวกต่อนักลงทุน หลังจากบริษัทเผยกำไรและยอดขายในไตรมาส 3 สูงเกินคาด แถมมองว่ารายได้จะพลิกกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

อย่างไรก็ดี ทองคำปรับตัวลดลงไม่มากนัก เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะนักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดจะพิจารณาแผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่พรรครีพับลิกันยังไม่สามารถผลักดันให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้ในช่วงที่ผ่านมา

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทองคำนิวยอร์กจะมีราคาถูกลงจนทำให้น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ถือเงินสกุลอื่นๆ

ขอบคุณเครดิตข่าวจาก  RYT9