World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2560

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า จะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า แต่จะลดวงเงินลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากระดับปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป

-- นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะไม่มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นภายในแคว้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับความต้องการของรัฐบาลสเปนที่เสนอให้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้น ท่ามกลางจุดยืนที่จะยึดอำนาจการบริหารของแคว้นกาตาลุญญา

บรรดานักการเมือง นักธุรกิจของสเปน รวมถึงสื่อในแคว้นกาตาลุญญา ต่างออกมาเรียกร้องให้นายปุกเดมองต์ ประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ ก่อนที่เขาจะถูกรัฐบาลกลางสเปนปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะสร้างความไม่พอใจต่อชาวคาตาลัน และสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สงบ

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับของวฺฒิสภา วงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ด้วยคะแนนเสียง 216 ต่อ 212 นับเป็นการกรุยทางสู่การพิจารณาแผนปฏิรูประบบภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อไป

เควิน เบรดี้ สมาชิกสภาผู้แทนรัฐเท็กซัส กล่าวว่า การอนุมัติงบประมาณ จะทำให้เราสามารถบอกกับชาวอเมริกันได้อย่างชัดเจนว่า กำลังจะมีการปฏิรูปภาษีแล้ว

-- นักลงทุนยังคงจับตาการเลือกผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ขณะที่รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ได้หลุดโผรายชื่อผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้มาทำหน้าที่ประธานเฟดคนใหม่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศผลการตัดสินใจว่าจะเสนอชื่อใครให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 233,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย

ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 138 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

ฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 63% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับโครงสร้างผู้บริหาร ยอดขายรถปิ๊คอัพที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการปรับลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง

ทวิตเตอร์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 3 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 21 ล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 103 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากการดำเนินนโยบายปรับลดต้นทุนและการมีแหล่งรายได้ใหม่ๆ

นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างอเมซอน ไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท ก็ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดการณ์เช่นกัน

อเมซอน เปิดเผยรายได้สุทธิประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ 256 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 252 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายพุ่งขึ้น 34% แตะ 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.22 หมื่นล้านดอลลาร์

ไมโครซอฟท์ เปิดเผยยอดขายประจำไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 12% แตะ 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ รับความต้องการบริการคลาวด์แข็งแกร่ง

ส่วนอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล เปิดเผยยอดขายประจำไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นแตะ 2.227 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายโฆษณาบนกูเกิล

-- ทางการสหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 เวลา 19.30 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย

ผลสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 3 โดยชะลอตัวลงจากระดับ 3.1% ในไตรมาส 2

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2560 ในการประมาณการครั้งสุดท้าย ระบุ GDP ขยายตัว 3.1%  ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.0% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 3.0%

-- ทางการสหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย

สำหรับตัวเลขเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยไปแล้ว ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 101.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี โดยสูงกว่าระดับ 95.3 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขอบคุณเครดิตข่าวจาก  RYT9